- รายละเอียด
- เขียนโดย Chutima
- หมวด: บทความเนื้อหาต่างๆ
การติดตั้งเครื่องปรับอากาศ VRF ปัจจุบันเครื่องปรับอากาศถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าจำเป็นต้องมีติดบ้านแบบทุกครัวเรือน รวมถึงภาคธุรกิจ ร้านค้าขนาดย่อม ขนาดใหญ่ หน่วยงานราชการ โรงงานอุตสาหกรรม และอื่นๆ เนื่องด้วยสภาพอากาศประเทศไทยที่ร้อนอบอ้าวขึ้นในทุกๆปี... การมองหาเครื่องปรับอากาศที่ใช้งานได้ดี ทนทาน คุ้มค่าในระยะยาวเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้บริโภคคาดหวังว่าจะได้รับเมื่อมีการซื้อเครื่องปรับอากาศไปใช้งานทั้งนี้เครื่องปรับอากาศจะใช้งานได้ดี ทนทาน และคุ้มค่าในระยะยาวหรือไม่นั้นจะขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก คือ คุณภาพของสินค้าที่ดี และ ความรู้ความชำนาญการของช่างผู้ติดตั้ง
1.การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานสำคัญสำหรับการติดตั้ง 1.1ท่อทองแดง (Copper Tube) ท่อทองแดงที่ใช้จะมี 2 แบบคือ แบบม้วน (Pancake Coil) และแบบเส้น (Hard Drawn Type) ต้องเลือกความหนาและขนาดท่อให้ตรงกับที่เจ้าของผลิตภัณฑ์กำหนด เพื่อให้สามารถทนแรงดันที่เกิดขึ้นตอนใช้งานได้ทั้งในสภาวะปกติและสภาวะที่ผิดปกติ... ในสภาวะปกติการทำงานของระบบ VRF จะมีแรงดันภายในท่อประมาณ 350-500 psi ขึ้นอยู่กับรอบการทำงานของคอมเพรสเซอร์ ส่วนสภาวะผิดปกติ จะเกิดจากสาเหตุระบบท่อน้ำอุดตัน หรือระบายความร้อนไม่ได้ จะทำให้แรงดันภายในท่อสูงขึ้นมากกว่า 500 psi (ระบบ VRF จะมีการตัดการทำงานถ้าแรงดันสูงถึง 580-600 psi) 1.2ฉนวนหุ้มท่อ (Pipe Insulation) จะเป็นฉนวนแบบชนิดไม่ลามไฟ (Closed Call Elastomeric Thermal Insulation) ที่มีความหนาไม่น้อยกว่า ½ หรือตามที่เจ้าของผลิตภัณฑ์กำหนด เนื่องจากภายในท่อจะมีความเย็นส่งผ่านออกมาภายนอก ฉนวนหุ้มท่อที่ได้ตามาตรฐานที่กำหนดจะสามารถป้องกันการเกิดหยดน้ำเกาะที่ท่อได้ 2.ขั้นตอนการติดตั้งโดยทั่วไป ขั้นตอนการติดตั้งแบบมาตรฐาน จะเป็นไปตามรูปด้านล่างนี้
3.งานติดตั้งท่อน้ำยาระบบ VRF มี 3 สิ่งที่ต้องหใความสำคัญ 3.1ความสะอาดของท่อน้ำยา ต้องรักษาความสะอาดของท่อน้ำยาไม่ให้สิ่งแปลกปลอมหรือสิ่งสกปรกหลงเหลืออยู่ภายในท่อน้ำยา หากมีสิ่งแปลกปลอมหรือสิ่งสกปรกหลงเหลือในท่อน้ำยา จะไปทำให้การทำงานของ EEV หรือ Electronic Expansion Valve (วาล์วควบคุมปริมาณสารทำความเย็นอัตโนมัติ) ทำงานผิดปกติได้ 3.2คาวมทนต่อแรงดันอากาศได้ตามค่ากำหนด เพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อเครื่องปรับอากาศได้เดินเครื่องแล้วจะไม่มีการรั่วไหลของน้ำยาออกนอกระบบ ฉะนั้นหลังการเชื่อมต่อท่อน้ำยาในสถานภาพต่างๆแล้ว จะต้องมีการทดสอบความดันของอากาศในระบบท่อน้ำยานี้ให้ทนความดันได้ตามข้อกำหนดของบริษัทเจ้าของผลิตภัณฑ์ 3.3ความแห้ง (ปราศจากความชื้น) ถ้ามีความชื้นอยู่ในระบบจะทำให้ EEV เกิดการเป็นน้ำแข็ง จำเป็นต้องทำให้มั่นใจว่าในระบบท่อน้ำยาไม่มีอากาศหลงเหลืออยู่ โดยดูดอากาศออกจากระบบด้วยเครื่องมือดูดสูญญากาศ (Vacuum Pump) ตามข้อกำหนด เครดิต บริษัท เซ็นทรัลแอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (บทความจาก วารสารสมาคม ผู้ค้าเครื่องปรับอากาศไทย Thai Air Conditioning Traders Association (T.A.T.A)
|
- รายละเอียด
- เขียนโดย saichelsai
- หมวด: บทความเนื้อหาต่างๆ

หลายวันก่อนขณะอ่านไลน์อยู่ ปรากฎว่าได้เห็นคลิปอยู่อันหนึ่ง เขาตั้งหัวข้อไว้
"อย่าเพิ่งซื้อสว่าน ถ้ายังไม่ได้ดูคลิปนี้"
(คลิปบันทึกการสอนการใช้สว่านและดอกแบบต่างๆ) เป็นน Ep.88 ของช่างไม้อินดี้ Nort woodworking
มันเป็นคลิปการเลือกใช้สว่านไร้สายแบบต่างๆ เข้าใจว่าเขาจะเน้นไปที่ช่างไม้ และช่างทำเฟอร์นิเจอร์ เพราะภาษาที่เชาใช้เกี่ยวกับงานไม้
เนื้อหาในคลิปจะกล่าวถึง
1.การเรียนรู้เพิ่มเติมของสายอาชีพตัวเอง ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร เป็นสิ่งที่จำเป็น
ช่างทุกช่าง ไม่ว่าจะช่างอะไร จะเป็นต้องหาความรู้ใส่ตัวเสมอ ถ้าเอาแต่ความรู้เดิมๆ มุกเดิมๆ มาใช้ ทั้งที่เขาพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆอยู่เสนอ ความก้าวหน้าในงานจะเกิดขึ้นอย่างไร ควรที่จะติดตามการเปลี่ยนแปลงหาความรู้ว่าเครื่องปรับอากาศแต่ละรุ่นมีข้อแตกต่างกันอย่างไร เราจะได้แนะนำลูกค้าได้ถูก
2.การใช้เครื่องมือที่ดี จะพัฒนางานขึ้นอีกระดับ
- เรายังใช้สว่านแบบกระแทกด้วยแรงเหวี่ยงแบบเดิมในการเจาะปูนหรือเปล่า
- ไขขวงเรามีการเปลี่ยนหรือเปล่า ยังทนใช้ตัวที่ขันแล้วยังมีอาการรูดๆอยู่หรือเปล่า
- เครื่องแวดยังเป็นสายพานอยู่หรือไม่
การใช้เครื่องมือใหม่และดี อาจจะทำให้มาถึงค่าใช้จ่ายทีต้องมากขึ้นในการซื้อเครื่องมือแน่นอน แต่เราควรจะมองอีกมุมนึงว่าการใช้เครื่องมือที่ดีจะทำงานให้เร็วขึ้น ดีขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นเป็นเท่าตัว
ช่างทุกช่าง ไม่ว่าช่างอะไรก็ตาม จำเป็นต้องหาความรู้ใส่ตัวเองเสมอ ถ้าเอาแต่ความรู้เดิมๆ มุกเดิมๆมาใช้ ทั้งๆ ที่เขามีการพัฒนาในผลิตภัณฑ์ต่างๆอยู่เสมอ ความก้าวหน้าในชีวิตการทำงานจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ควรจะติดตาดการเปลี่ยนแปลง
3.คำถามยอดฮิต เราควรจะเสนอราคาเท่าไหร่
ในการติดตั้งหรือซ่อมการบริการแต่ละครั้งเราจะพะวงว่าเราควรจะเสนอราคาเท่าไหร่ถึงจะได้งานมา หากรู้ราคางานอื่น เราก็มีแนวโน้มที่จะเสนอราคาต่ำเพื่อให้ได้งานมา โดยที่ไม่สนต้นทุนของ อย่าลืมนะครับว่าต้นทุนของเราไม่เท่ากัน
- ต้นทุนการเช่าสถานที่ประกอบการ เราเช่าหรือไม่
- เราจดทะเบียนการค้าหรือเปล่า ถ้าเราจดเราต้องเสียภาษี คนที่ไม่จดเขาจะเลี่ยงภาษีได้ ต้นทุนจะถูกกว่าเรา
- เรามีสวัสดิการพนักงานให้เราหรือเปล่า หากมีค่าใช้จ่ายเราจะมากกว่าร้านที่ไม่ให้สวัสดิการ
- เรามีต้นทุนที่จะซื้อแอร์ได้ครั้งหลายๆชุด หรืออะไหล่ไว้ครั้งละหลายๆชิ้นหรือเปล่า ต้นทุนในการซื้อของหลายๆชิ้นย่อมถูกกกว่า
- เราใช้ช่างรับเหมาช่วงต่อหรือใช้ทีมงานของเราในการทำงาน การใช้มือปืนค่าใช้จ่ายต้องจ่ายมากกว่าคุณภาพงานควบคุมไม่ได้ อาจจะไม่ดีอีกด้วย
เมื่อต้นทุนไม่เท่ากันการนำเสนองานของเรา ไม่ว่าเป็นงานติดตั้งหรือซ่อมแซมและการบริการให้เราคำนึงถึงต้นทุนของเราเสมอ ไม่ต้องคำนึงถึงราคาคนอื่น
ปัจจุบันลูกค้าเป็นคนรุ่นใหม่ มีการตัดสินใจซื้อที่เร็ว มีเหตุผล ไม่ใช่เอาแต่ของถูก ช่างแอร์เป็นช่างฝีมือ ราคาก็เป็นไปตามฝีมือ หากลูกค้าพอใจกับงานของเราจะใช้บริการอยู่เรื่อยๆ บางครั้งคุยกับลูกค้าที่ยอมจ่ายแพงจะคุยง่ายกว่าลูกค้าที่เอาแต่ของถูกด้วยซ้ำ ดังนั้นเราควรจะต้องไปเสาะหาลูกค้าที่พร้อมจะจ่ายอย่างมีเหตุผลดีกว่าไหม
- รายละเอียด
- เขียนโดย saichelsai
- หมวด: บทความเนื้อหาต่างๆ

ทำอย่างไรดีถ้าแอร์โดนน้ำท่วม ?
เมื่อเกิดน้ำท่วมก่อให้เกิดความลำบากเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น แอร์ หรือเครื่องปรับอากาศของเรานั่นเอง
ซึ่งมันย้ายยากมากๆ ต้องให้ช่างมาย้ายให้เนื่องจากมีระบบน้ำยาแอร์ที่เป็นอันตรายเมื่ออกสู่ภายนอก
กันไว้ดีกว่าแก้ !?
เนื่องจากปกติแอร์เราจะติดไว้ตรงผนังบ้าน แต่คอมเพรสเซอร์ นั่นก็คือเครื่องปรับอากาศที่อยู่ส่วนนอกตัวบ้าน
เพราะในส่วนของคอมเพรสเซอร์นี้ จะตั้งอยู่ติดกับพื้น เมื่อน้ำท่วมจะทำให้ตัวคอมเพรสเซอร์แอร์เสียได้
เรามาดูวิธีป้องกันแอร์เมื่อเจอเหตุการณ์น้ำท่วมกัน
1.ปิดเบรกเกอร์ หรือสวิทซ์เครื่องปรับอากาศ
2.หาพลาสติกหรือผ้าใบมาคลุมรอบเครื่อง เพื่อกันน้ำให้ได้มากที่สุด
3.ควรงดใช้เครื่องปรับอากาศโดยเด็ดขาด
แอร์ของเราจะได้รับผลกระทบอะไรบ้างเมื่อโดนน้ำท่วม
หากแอร์โดนน้ำท่วมระบบการทำงานในเครื่องปรับอากาศของเรานั้นจะเสียหมด ควรตรวจสอบว่ายังใช้การได้หรือไม่ หากมีแนวโน้มว่าใช้ได้ ยังท่วมไม่มาก ก็ควรให้ช่างแอร์มาตรวจสอบระบบไฟฟ้า และระบบน้ำยา แต่ถ้าน้ำท่วมทั้งตัวเป็นระยะเวลายาวนาน นั้นก็ควรเปลี่ยนใหม่ เพราะทุกอย่างนั้นเสียไปหมดแล้ว และที่สำคัญ อย่าเปิดสวิทซ์ ซึ่งจะทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรได้
- รายละเอียด
- เขียนโดย Chutima
- หมวด: บทความเนื้อหาต่างๆ
จะซื้อแอร์ทั้งที ต้องเลือกแอร์แบบไหน
1. เลือกเครื่องปรับอากาศ ประหยัดไฟเบอร์ 5
2. ควรพิจารณาค่า SEER หรือ EER ซึ่งเป็นค่าประสิทธิภาพการประหยัดพลังงาน
3. มีมาตรฐานรับรองเช่น มอก. CE JIS ISO
4. มีบริการหลังการขายที่ดี และเชื่อถือได้
5. เลือก BT ให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง
- รายละเอียด
- เขียนโดย saichelsai
- หมวด: บทความเนื้อหาต่างๆ
พัดลมไอเย็น กับ แอร์ ต่างกันอย่างไร ?
อากาศร้อนแบบนี้ บางคนงบน้อยคงกำลังคิดว่า ซื้อพัดลมไอเย็นดีกว่าไหม? จะได้ไม่ต้องติดแอร์ แอร์จะถูกกว่าหรือไม่หรือจะตอบโจทย์หน้าร้อนนี้กว่าหรือเปล่า แต่ถ้าหากจะให้เลือกซื้อเลือกใช้ระหว่าง พัดลมไอเย็นและแอร์ ก็ควรจะต้องทราบถึงรายละเอียดของข้อดี ข้อด้อยของเครื่องใช้ทั้งสองชนิดนี้กันก่อน มาดูกันครับ
พัดลมไอเย็น ทำงานอย่างไร ?
พัดลมไอเย็นไม่ใช่พัดลมไอน้ำ แต่เป็นพัดลมที่ทำงานด้วยการดึงเอาความร้อนที่อยู่ด้านนอกให้เข้ามา เมื่อผ่านแผ่นทำความเย็นหรือแผงรังผึ้ง (Cooling Pad) ด้านใน ขณะที่น้ำสัมผัสกับแผงรังผึ้ง น้ำบนแผ่นก็จะระเหยออกและกลับเปลี่ยนเป็นไอเย็นออกมา ซึ่งจะช่วยลดอุณหภูมิในห้องให้เย็นลงได้ โดยไม่ทำให้บริเวณที่ได้รับความเย็นชนิดนี้รู้สึกฉ่ำหรือมีความชื้นในอากาศ
ข้อดี
- เคลื่อนย้ายง่าย สะดวก เหมาะที่จะใช้กับบริเวณที่โล่ง แต่ก็สามารถใช้กับบริเวณสถานที่ที่ปิดไม่มีจุดเปิดโล่งก็ได้ ถ้าเป็นบริเวณพื้นที่ปิด ไม่โล่งโปร่ง แนะนำว่าไม่ควรใช้ต่อเนื่องแบบยาวนาน เพราะอาจเกิดมีเชื้อราเกิดขึ้นได้
ข้อเสีย
- มีเสียงดังและเย็นไม่ฉ่ำเท่าแอร์
แอร์ทำงานอย่างไร?
การทำงานของแอร์นั้นมีความซับซ้อนมากกว่าเครื่องใช้ที่ให้ความเย็นทุกชนิด โดยทำงานด้วยการใช้คอมเพรสเซอร์ให้ดูดลมร้อนจากภายนอกให้เข้ามา จากนั้นจะใช้น้ำยาแอร์หรือสารทำความเย็นอัด เพื่อทำให้เกิดลมเย็นเข้าที่ตัวแอร์ เมื่อลมเย็นปล่อยออกมาสู่ภายนอก ก็จะทำให้อุณหภูมิภายในบริเวณนั้นลดลงได้เป็นอย่างดี
ข้อดี
- แอร์ให้ความเย็นที่จัด ฉ่ำ สดชื่น เพราะยังให้ความชื้นของน้ำทำให้ผู้ใช้เย็นสบายมากกว่าพัดลม แต่ก็เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าสูง
- มีเสียงเบา และความเหมาะสมในการใช้ก็ยังคงเหมาะกับบริเวณหรือสถานที่ที่ปิด
ข้อเสีย
- การเคลื่อนย้ายทำได้ยากและด้วยการทำงานที่ซับซ้อน จึงทำให้การบำรุงรักษาทำได้ยากกว่า
ขึ้นอยู่กับตัวเราแล้วละครับว่าต้องการแบบไหน ให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตประจำวันของเรานะครับ
ถ้าต้องการความเย็นฉ่ำก็ต้องเลือกแอร์ แต่ถ้าต้องการความสะดวกเคลื่อนย้ายง่าย พัดลมไอเย็นก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจครับ